สถานการณ์ตลาดงานกลุ่มพนักงานออฟฟิศปีนี้ขยายตัวดี ด้านผู้หางานไทยลงความเห็นว่าตลาดงานมีการแข่งขันสูงขึ้น และช่องทางออนไลน์เป็นอันดับ 1 ที่นิยมใช้
สถานการณ์ตลาดงานในไทย
จากการเปิดเผยผลสำรวจตลาดงานในไทย จัดทำโดยจ๊อบส์ ดีบี (ประเทศไทย) ระบุว่า ผู้ประกอบการไทยส่วนใหญ่คาดการณ์ว่าตลาดงานกลุ่มพนักงานออฟฟิศ (White Collar) จะดีขึ้นกว่าปีที่ผ่านมา ความต้องการผู้หางานที่มีความสามารถยังมีต่อเนื่องเป็นผลจากการเข้ามาลงทุนของต่างชาติ โดยเฉพาะธุรกิจสินค้าอุปโภคบริโภค บริการและค้าปลีก โดยคาดว่าธุรกิจเกี่ยวกับการดูแลสุขภาพจะเติบโตดีกว่าปีก่อน
สวนทางกับมุมมองของผู้หางานกว่าร้อยละ 50 เชื่อว่าตลาดงานจะซบเซากว่าปี 2559 แม้ว่าจะมีความต้องการแรงงานในประเทศไทยขยายตัวขึ้น แต่ผู้หางานกลับยังไม่เชื่อมั่นว่าจะมีตำแหน่งงานรองรับอย่างเพียงพอ ซึ่งเป็นปัจจัยมาจากการแข่งขันระหว่างผู้หางานที่อยู่ในสายงานเดียวกันที่เข้มข้นขึ้น สะท้อนให้เห็นว่าผู้หางานไม่สามารถเข้าถึงตำแหน่งงานที่เหมาะสมได้
สำรวจการจ้างงานในไทย
จากปัจจัยเชิงบวกที่ผู้ประกอบการมองในตลาดงาน ทำให้แนวโน้มการจ้างงานภายในประเทศค่อนข้างสดใส โดยพบว่า 49% คาดว่าธุรกิจจะขยายกิจการและจ้างงานเพิ่ม ขณะที่ 39% จะมีการรับพนักงานเข้ามาทดแทนตำแหน่งงานเดิมที่ว่างลงหรือเฉพาะตำแหน่งงานที่จำเป็น 12% ยังคงอัตราการจ้างงานเท่ากับปีที่แล้ว 4% จ้างน้อยลงกว่าปีที่แล้ว และไม่มีบริษัทที่ไม่จ้างงานเลย บ่งบอกถึงมีการจ้างงานอย่าง
ต่อเนื่อง
สอดคล้องกับข้อมูลของสำนักงานสถิติแห่งชาติ ซึ่งระบุว่า เดือนส.ค. 2560 มีผู้มีงานทำในกรุงเทพฯ กว่า 5,326,300 คน พุ่งสูงขึ้นจากเดือน ก.ค. ถึง 126,600 คน ขณะเดียวกันกรมการจัดหางานได้จัดตั้งศูนย์รวมข้อมูลความต้องการแรงงานและผู้ต้องการหางาน ทำให้ปี 2559 ประชาชนเข้าถึงตำแหน่งงานที่มีคุณภาพเพิ่มขึ้น ได้งานทำกว่า 4,400 คน มีรายได้รวมกว่า 10,482,000 บาท/เดือน
สำหรับธุรกิจที่คาดการณ์ว่าจะเติบโตในปีนี้ ธุรกิจสุขภาพมาเป็นอันดับ 1 รองลงมาเป็นธุรกิจการผลิต ธุรกิจพลังงาน ธุรกิจสินค้าอุปโภคบริโภค และธุรกิจก่อสร้าง เนื่องจากประเทศไทยเป็นเมดิคอล ฮับ ก่อให้เกิดเทรนด์เมดิคอล ทัวริซึ่ม เดินทางมาท่องเที่ยวพร้อมกับมาทำการรักษาตัวในประเทศไทยมากขึ้น บวกกับปัจจัยบุคลากรทางการแพทย์ไทยมีความสามารถสูง รวมถึงค่ารักษาที่เหมาะสม ธุรกิจการผลิต ความต้องการในการใช้สินค้าและบริการมากขึ้น พอคนมีเงินก็มีการซื้อของ ธุรกิจก็ขยายตัว จึงมีความต้องการคนทำงานมากขึ้น
ด้านฝั่งผู้หางาน มองว่างานที่จะมีโอกาสเติบโตคือ ธุรกิจบริการด้านการเงิน ธุรกิจโทรคมนาคม ธุรกิจการผลิต ธุรกิจพลังงาน และธุรกิจอุปโภคบริโภค ซึ่งจะเห็นได้ว่าธุรกิจในลิสต์ของทั้งสองฝั่งค่อนข้างจะเป็นไปในทิศทางเดียวกัน
สมัครงานออนไลน์มาแรง
เมื่อเทคโนโลยีการสื่อสารในเมืองไทยพัฒนามากขึ้น ทำให้พฤติกรรมของมนุษย์ออฟฟิศมีการหางานที่เปลี่ยนแปลงไป โดยในปัจจุบันจะใช้เว็บไซต์สมัครงานในการติดตามและดูความเคลื่อนไหวของตลาดงานเป็น
ช่องทางหลัก รองลงมาผ่านทางบริษัทสรรหาบุคลากร, บุคคลอ้างอิง, งานจ๊อบแฟร์, งาน
อีเวนท์ที่จัดขึ้นโดยสมาคมหรือกลุ่มอุตสาหกรรม หน่วยงานราชการ และหนังสือพิมพ์หรืองานสรรหาบุคลากรตามมหาวิทยาลัย ตามลำดับ
โดยในทัศนะของผู้หางานมองว่า ตลาดงานเต็มไปด้วยงานที่หลากหลายและต้องการทักษะที่แตกต่างกันมากขึ้น มีบริษัทต่างชาติเข้ามาดำเนินธุรกิจในประเทศเพิ่มขึ้น รวมไปถึงการเติบโตของธุรกิจสตาร์ทอัพ ทั้งยังคิดว่าปัจจุบันมีการแข่งขันในสายงานที่เข้มข้นอย่างมาก ส่งผลให้ความคาดหวังต่อโอกาสในการหางานลดลง ด้วยปัจจัยที่ว่าการค้นหาที่ดี การสมัครงานที่ดี และการได้รับโอกาสสัมภาษณ์งานเกิดได้ยากขึ้น
ขณะเดียวกันมีคำแนะจาก คุณนพวรรณ จุลกนิษฐ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท จัดหางาน จ๊อบส์ ดีบี (ประเทศไทย) จำกัด ในการดึงดูดคนที่มีความสามารถเข้าทำงานและเหมาะสมกับงานว่า ผู้ประกอบการจะต้องสร้างแบรนด์ให้แข็งแรงโดยนำเสนอวัฒนธรรมและค่านิยมขององค์กร การใช้สื่อออนไลน์ลงประกาศหาพนักงานและสร้างความสัมพันธ์กับผู้หางาน ควบคู่กับการใช้เว็บไซต์หางานคุณภาพ ส่วนผู้ที่กำลังหางานควรต้องเพิ่มทักษะ ทั้งด้านวิชาชีพ ภาษา และเทคโนโลยี เพื่อเปิดโอกาสให้พบงานดีๆ ผู้หางานจำเป็นต้องอัพเดตโปรไฟล์ของตนอย่างสม่ำเสมอ ซึ่งจากการสำรวจพบว่ากว่าร้อยละ 80 ที่มีการอัพเดทโปรไฟล์จะได้รับการติดต่อเสนองาน และร้อยละ 74 จะได้งานภายใน 1 เดือนหลังจากสมัคร
ส่วนคนทำงานที่นายจ้างต้องการ นอกเหนือจากความสามารถแล้ว สิ่งที่ต้องมีติดตัวคือ คนที่พร้อมเรียนรู้สิ่งใหม่ ขวนขวายหาข้อมูล มีความรู้เกี่ยวกับเทคโนโลยีสารสนเทศ มีความรู้ภาษาอังกฤษในระดับสื่อสารได้ดี และหากมองในอนาคต คนทำงานยังต้องมีความสามารถในการแก้ไขปัญหาได้ดี รวมไปถึงมีความคิดสร้างสรรค์
เจาะมุมมองตลาดงานอาเซียน
ภาพรวมตลาดงานในภูมิภาคอาเซียนปีนี้ มีโอกาสหดตัวลงเมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา เนื่องจากเศรษฐกิจของภูมิภาคอยู่ในช่วงขาลง จากผลกระทบเศรษฐกิจของประเทศจีนชะลอตัวและปัจจัยการปรับราคาน้ำมันโลก จากรายงานการคาดการณ์ภาพรวมตลาดงานประจำปี 2560 จาก 6 ประเทศอาเซียน ได้แก่ เวียดนาม ฟิลิปปินส์ มาเลเซีย สิงคโปร์ อินโดนีเซีย และไทย พบว่า ตลาดงานในแต่ละประเทศจะซบเซากว่าปีที่แล้ว โดยสอดคล้องกับฝั่งคนหางานที่มองแบบเดียวกัน
แนวโน้มการจ้างงานของผู้ประกอบการทั้งภูมิภาค 50% ผู้ประกอบการจะจ้างพนักงานใหม่มาแทนตำแหน่งงานที่ว่างเท่านั้น ขณะที่ 22% ผู้ประกอบการจะขยายกิจการและจ้างงานเพิ่ม 12% จะยังคงจ้างงานในอัตราเท่ากับปีที่แล้ว 8% จะจ้างงานน้อยลงเมื่อเทียบกับปีก่อน 7% ไม่จ้างพนักงานเพิ่มเลย โดยตลาดงานในฟิลิปปินส์กับเวียดนามมีทิศทางที่สดใส โดยมองว่าปีนี้จะเติบโต จากปัจจัยมาจากบริษัทต่างชาติเข้าไปลงทุนมากขึ้น ส่วนมาเลเซียไม่มีการหาคนทำงานเพิ่ม
สำหรับธุรกิจดาวเด่นคือ ธุรกิจการผลิต ธุรกิจสุขภาพ เนื่องจากมีความเชื่อมั่นว่าสามารถเติบโตขึ้น ส่วนธุรกิจก่อสร้าง ธุรกิจบริการด้านการเงิน มีทิศทางที่แย่ลง สวนทางกับผู้หางาน ซึ่งมองว่าตลาดงานปีนี้ค่อนข้างซบเซาทุกกลุ่มธุรกิจ โดยลงความเห็นว่าธุรกิจบริการด้านการเงิน ธุรกิจสุขภาพ ธุรกิจสินค้าอุปโภคและบริโภค ธุรกิจพลังงาน และธุรกิจการผลิต แย่ลงจากปี 2559
หากเจาะลึกลงไปถึงประเภทงานที่คาดว่าจะเติบโตในปีนี้ 5 อันดับ ได้แก่
1. งานขาย งานพัฒนาธุรกิจ
2. งานการเงิน – การเงินสำหรับธุรกิจ
3. งานวิศวกรรมโยธา งานก่อสร้าง
4. งานวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี และ
5. งานบริการสุขภาพ การให้บริการด้านการแพทย์และพยาบาล ตามลำดับ ซึ่งตำแหน่งงานดังกล่าวล้วนเป็นงานที่มีทักษะสูงและความชำนาญเฉพาะทาง
จึงเป็นการบ้านทั้งฝั่งผู้ประกอบการที่จะต้องมีการเปิดเผยนโยบายของการจ้างงานในบริษัทให้ทราบว่าธุรกิจที่ทำอยู่นั้นมีการเจริญเติบโตอย่างแน่นอน เพื่อดึงดูดคนที่มีความสามารถเข้าทำงาน ส่วนฝั่งผู้หางานเองก็ต้องเตรียมตัวให้พร้อมสู่ตลาดงานที่มีการแข่งขันสูงขึ้นทุกวัน
คุณนพวรรณ จุลกนิษฐ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท จัดหางาน จ๊อบส์ ดีบี (ประเทศไทย) จำกัด
“แนวโน้มการขยายตัวของเศรษฐกิจไทยจากสัญญาณการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก จะส่งผลให้กำลังซื้อกลับมาสดใส และภาคการผลิตเริ่มกลับเข้ามามีบทบาทในอุตสาหกรรมอีกครั้ง ทำให้ตลาดการจ้างงานเตรียมฟื้นตัวขึ้นด้วยเช่นกัน อย่างไรก็ดี ความท้าทายที่เกิดขึ้นอีกประการหนึ่ง คือแรงงานทักษะสูงที่มีความเชี่ยวชาญเฉพาะทางยังไม่เพียงพอต่อความต้องการนายจ้างส่วนใหญ่ ก่อให้เกิดช่องว่างระหว่างแรงงานทักษะสูงและแรงงานทักษะพื้นฐานที่ล้นตลาดและจะกลายเป็นผู้ว่างงานในที่สุด”
[English]
Employment Outlook in Thailand and ASEAN — Somewhat Uncertain
A survey by JobsDB has shown most business operators believe the white collar market will improve from last year as a result of stronger demand for more skilled talents brought about by the arrivals of foreign investors in consumer goods, service and retail businesses.
This is in spite of the findings that more than 50% of job seekers expect the situation to be worse than last year as they believe there will not be enough positions for all to take due to high competition within certain areas of work.
Nevertheless, the National Statistical Office reported that the number of employed people in Bangkok alone stood at over 5.3 million in August, up by 126,600 from July.
It is now expected that the health business will be the first to register an impressive growth rate this year, followed by the manufacturing sector, the energy sector, the consumer goods sector and the construction sector — mostly because of Thailand’s stance as a medical hub and the increasingly-popular medical tourism that have attracted more visitors to the country.
Noppawan Chulakanista, Managing Director of JobsDB Thailand, suggested that businesses, which are looking for new talents, should make sure they have a strong brand and highlight their organizational culture and values in their online job advertisements, while job hunters should add more values to their CVs, both professional skills, language proficiency and competence in digital technology in order to land the jobs they want.
Meanwhile, the employment outlook across Southeast Asia is less cheerful due to a slowdown in the Chinese economy and volatile global oil prices, with only 50% of employers said they would hire new people to fill vacancies.