Tuesday, May 23, 2023
More

    ระเบิดศึกน้ำดำรับซัมเมอร์! 3.5 หมื่นล้านบาท

    ตลาดเครื่องดื่มน้ำอัดลมยังคงซ่าด้วยอัตราการเติบโตที่ขยายตัวขึ้น โดยเฉพาะกลุ่มโคลาหรือตลาดน้ำดำที่มีมูลค่ารวมกว่า 3.5 หมื่นล้านบาท ซึ่งค่ายยักษ์ใหญ่ยังแข่งขันกันอย่างดุเดือด โดยเฉพาะในช่วงฤดูร้อนปีนี้ที่ต่างออกแคมเปญประชันกันอย่างจัดหนักจัดเต็ม

    เครื่องดื่มโคล่ามูลค่าตลาดยังสูง
    แม้ว่าในปี 2561 ที่ผ่านมา ตลาดเครื่องดื่มโดยรวมจะได้รับผลกระทบจากเศรษฐกิจที่ยังคงชะลอตัว แต่ตลาดน้ำอัดลมยังเป็นหนึ่งในแคตทะกอรีหลักที่มีอัตราการเติบโตสูงที่สุดรองจากน้ำดื่ม จากรายงานดัชนีค้าปลีกของ บริษัท เดอะ นีลเส็น คอมปะนี (ประเทศไทย) จำกัด ระบุถึงตลาดน้ำอัดลมว่า มีมูลค่าประมาณ 50,000 ล้านบาทในปี 2561 ด้วยอัตราการเติบโตขึ้น 1.74% เมื่อเทียบกับปี 2560 เฉพาะในกลุ่มเครื่องดื่มโคลาหรือตลาดน้ำดำ พบว่ามีมูลค่าราว 35,000 ล้านบาท ขยายตัว 1.6% คิดเป็นสัดส่วนเกือบ 2 ใน 3 ของตลาดเครื่องดื่มน้ำอัดลมทั้งหมด



    ขณะที่คู่แข่งในตลาดยังคงเป็นค่ายยักษ์ใหญ่อย่าง โคคา-โคลา (Coca-Cola) หรือ โค้ก (Coke) ซึ่งประกาศว่าเป็นเครื่องดื่มน้ำอัดลมที่ขายดีที่สุดอันดับ 1 มีส่วนแบ่งการตลาดประมาณ 35% ของตลาดน้ำอัดลมทั้งหมด ส่วน เป๊ปซี่ (Pepsi) ก็ยืนยันว่าเป็นแบรนด์อันดับ 1 เฉพาะตลาดน้ำดำในบรรจุภัณฑ์แบบไม่ต้องคืนขวด (ขวด PET, กระป๋อง) ด้วยส่วนแบ่งการตลาดที่ มากกว่า 45% ถือว่าเป็นการแข่งขันที่สูสี ยิ่งเข้าสู่ช่วงฤดูร้อน ทั้งสองค่ายต่างเดินเกมรุกเพื่อเจาะกลุ่มผู้บริโภคกันอย่างคึกคัก

    ประชันแคมเปญรับซัมเมอร์
    ต้อนรับฤดูร้อนปี 2562 โค้ก ได้เปิดตัวแคมเปญใหม่ “ยิ่งเปิดใจ ยิ่งใกล้กัน” จากการศึกษาข้อมูลเชิงลึกของผู้บริโภคชาวไทยร่วมกับ Google ซึ่งพบว่าคนไทย โดยเฉพาะวัยรุ่น ไม่กล้าแสดงออกถึงความคิดเห็นและความรู้สึกของตัวเองกับคนรัก ไม่ว่าจะเป็นพ่อแม่ เพื่อน หรือคนรัก จึงได้หยิบมาถ่ายทอดผ่านภาพยนตร์โฆษณาชุดใหม่ หวังปลุกกระแสให้เปิดใจแสดงความรู้สึกกับคนที่รัก เพื่อกระชับความสัมพันธ์ ทั้งยังร่วมกับ กูเกิล สร้างโซนเปิดใจ (Open Heart Zone) นำนวัตกรรมตู้บรรจุเครื่องดื่มที่สื่อสารกับผู้บริโภคได้ โดยสามารถถามถึงวิธีการเปิดใจอย่างสร้างสรรค์ ทำเป็น e-card ลงบนกระป๋องโค้ก ผ่าน QR Code รวมทั้งร่วมสนุกด้วยการส่งรหัสใต้ฝาขวด ลุ้นรางวัลใหญ่ทุกสัปดาห์ และได้จัดแสดง Light and Sound Show บนจอ Panoramix Screen หน้าเซ็นทรัลเวิลด์ ซึ่งเป็นการแสดง Visual Performance ไปจนถึงปลายปีนี้

    ด้าน เป๊ปซี่ ในระดับโกลบอลประกาศแพลตฟอร์มใหม่ในแนวคิด For The Love of It  เต็มที่กับสิ่งที่ใช่ เพื่อสื่อสารกับกลุ่มคนรุ่นใหม่ให้ใช้ชีวิตอย่างเต็มที่กับสิ่งที่ชื่นชอบ สำหรับในไทยได้ส่งแคมเปญใหม่ เป๊ปซี่ซ่า…สุดทุกดนตรี (Pepsi Music 2019) โดยใช้ดนตรีเป็นแกนหลักในกิจกรรมช่วงหน้าร้อน โฟกัสที่กลยุทธ์ M.U.S.I.C. ผ่านสื่อทั้งออฟไลน์และออนไลน์ ยังได้ ป๋าเต็ด-ยุทธนา บุญอ้อม จัดมิวสิกอีเวนต์ในธีม Pepsi Unexpected Music Experience ในกรุงเทพฯ, อุดรธานี และนครราชสีมา รวมทั้งช่วงสงกรานต์นี้ได้จัดงานใหญ่ในแลนด์มาร์กสำคัญ คือ Pepsi Presents S2O Songkran Music Festival 2019 และ Wonder Waterland @ UD Town ในอุดรธานี และร่วมกับ JOOX เดินสาย Pepsi Music Roadshow ใน 5 มหาวิทยาลัย


    แลกหมัดผ่านบทเพลง
    ช่วงซัมเมอร์ในแต่ละปีค่ายเครื่องดื่มน้ำดำ มักจะทำการตลาดด้วยการนำบทเพลงมาสร้างสีสัน และดึงดูดความสนใจ โดยปีนี้ โค้ก ได้เลือก นนท์ ธนนท์ จำเริญ มาคัฟเวอร์เพลงอมตะระดับโลก True Colors ประกอบภาพยนตร์โฆษณา เพื่อสื่อให้ถึงความสวยงามในการเป็นตัวของตัวเองกับคนที่รัก และได้ เจมส์-ธีรดนย์ ศุภพันธุ์ภิญโญ มาเป็นแบรนด์พรีเซ็นเตอร์

    ส่วน เป๊ปซี่ คว้าตัว 4 ศิลปินซูเปอร์สตาร์จาก 4 แนวดนตรี มาเป็นพรีเซนเตอร์ในแคมเปญ ประกอบด้วย เดอะ ทอยส์, กอล์ฟ ฟักกลิ้งฮีโร่, บูม บูม แคช และ จินตหรา พูนลาภ ซึ่งเป็นการร่วมงานกันครั้งแรก เพื่อสร้างความพิเศษผ่านเพลงรอไร เพื่อปลุกพลังให้ทำในสิ่งที่รักโดยไม่ต้องรอ

    แพ็กเกจสุดลิมิเต็ดรับซัมเมอร์
    ในการนำเสนอนวัตกรรมด้านบรรจุภัณฑ์นั้น โค้ก ใช้เทคโนโลยี Thermal Can มาดีไซน์กระป๋องในคอลเล็กชันพิเศษ ซึ่งเมื่อมีอุณหภูมิต่ำกว่า 8 องศาเซลเซียส โลโก้โค้กจะเปลี่ยนเป็นเฉดสีต่างๆ มีให้เลือกสะสม 4 แบบ

    ด้าน เป๊ปซี่ ทำแพ็กเกจจิงรุ่น เป๊ปซี่ มิวสิค ลิมิเต็ด เอดิชั่น กับ 4 ดีไซน์ที่สะท้อน 4 แนวดนตรี ผ่านลวดลายกราฟิก ให้ได้สะสมและจำหน่ายเพียง 4 เดือน รวมทั้งยังนำเทคโนโลยี AR ซึ่งเป็นความร่วมมือด้านเทคโนโลยีระหว่างเป๊ปซี่และ Facebook ครั้งแรกในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยจะมี QR Code ให้สแกนเพื่อร่วมเล่นเกมร้องเพลงสะสมคะแนน แลกรับรางวัลรวมมูลค่ากว่า 1 ล้านบาท

    Collaboration กับแบรนด์สินค้าอื่น
    การร่วมจับมือกับแบรนด์สินค้าอื่น (Colla boration) ถือเป็นการยกระดับสู่การเป็นไลฟ์สไตล์แบรนด์ของเครื่องดื่มน้ำอัดลม โดยปีนี้ โค้ก จับมือกับ Bata เปิดตัว iconic capsule collection  คอลเลกชันพิเศษรับฤดูใบไม้ผลิ/ฤดูร้อน โดยผสมผสานกับดีเอ็นเอสีแดงและสีขาวอันโดดเด่นของโค้ก ทั้งยังใส่โลโก้ตรงด้านข้างและด้านหลัง ปักประโยคสุดฮิตของโค้ก The Real Thing รวมถึงมีคำว่า โคคา-โคลา ในภาษาต่างๆ ลงบน Bata Tennis และ Bata Hotshot รองเท้าระดับตำนาน

    ขณะที่ เป๊ปซี่ ร่วมมือกับ FILA ส่งคอลเล็กชันพิเศษ PEPSI X FILA ด้วยเสื้อผ้าแนวสปอร์ต แคชชวลโทนสีน้ำเงิน ขาวและแดง เอกลักษณ์ของทั้งสองแบรนด์ โดยได้แรงบันดาลใจมาจาก 4 แนวดนตรี ให้เลือกมิกซ์แอนด์แมตช์กว่า 60 ไอเท็ม ทั้ง เสื้อยืด แจ๊กเก็ต เสื้อคลุมแบบมีฮู้ด กระโปรง กางเกงวอร์ม หมวก และรองเท้า

    การออกมายืนยันถึงการเป็นผู้นำตลาด และนำเสนอแคมเปญ จากสองแบรนด์ยักษ์ใหญ่แบบไม่มีใครยอมใคร นับว่าสร้างสีสันและความคึกคัก จนทำให้ตลาดน้ำอัดลมในปี 2562 น่าติดตามเป็นอย่างยิ่งว่าจะมีความร้อนแรงมากขึ้นเพียงใด
    ____________________
    มร.คาร์ลอส ดิแอซ-ริกบี้ – ผู้จัดการทั่วไป บริษัท โคคา-โคลา (ประเทศไทย) จำกัด
    “เราเชื่อว่าแคมเปญนี้จะได้การตอบรับที่ดีจากผู้บริโภคทุกกลุ่ม และสามารถสร้างความแข็งแกร่ง ทั้งในแง่ของแบรนดิ้งและยอดขาย โดยโค้กยังคงเดินหน้าพัฒนาผลิตภัณฑ์ตลอดจนการทำตลาดในรูปแบบต่างๆ เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคเสมอ ทั้งเทรนด์ของการดูแลสุขภาพ น้ำตาลน้อยหรือไม่มีน้ำตาล”


    คุณสมชัย เกตุชัยโกศล – ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด กลุ่มธุรกิจเครื่องดื่ม บริษัท เป๊ปซี่โค เซอร์วิสเซส เอเชีย จำกัด 
    “ปีนี้ เป๊ปซี่ ระดับโกลบอลประกาศแพลตฟอร์มใหม่ ภายใต้แนวคิด For The Love of It หรือเต็มที่กับสิ่งที่ใช่ เพื่อสื่อสารกับกลุ่มคนรุ่นใหม่ โดยถูกใช้กว่า 100 ประเทศทั่วโลก สำหรับไทยในแคมเปญใหม่ล่าสุด เป๊ปซี่ซ่า…สุดทุกดนตรี เลือกใช้ดนตรีมาเป็นแกนหลักในการทำกิจกรรมการตลาดในช่วงหน้าร้อน โฟกัสไปที่กลยุทธ์ M.U.S.I.C. เนื่องจากเป็นสื่อกลางที่เข้าถึงผู้บริโภคได้ในวงกว้าง พร้อมตอกย้ำความเป็นผู้นำในด้านมิวสิกมาร์เก็ตติ้ง”