Saturday, September 23, 2023
More

    รร. นานาชาติในไทยบูม เติบโตสูงสุดในอาเซียน

    ประเทศไทยเป็นตลาดโรงเรียนนานาชาติที่มีการเติบโตมากที่สุดในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยปี 2560 เติบโตเฉลี่ย 18-20% แสดงให้เห็นถึงแนวโน้มผู้ปกครองชาวไทยส่งลูกหลานเข้าเรียนในระบบอินเตอร์มากขึ้น ส่งผลให้ธุรกิจโรงเรียนนานาชาติเติบโต มีการขยายตัวเป็นจำนวนมาก 

    เทรนด์ส่งลูกเรียนอินเตอร์มาแรง!
    ข้อมูลจากสมาคมโรงเรียนนานาชาติแห่งประเทศไทย ระบุว่า ปี 2560 โรงเรียนนานาชาติมีอัตราการเติบโตเฉลี่ย 18-20% นับเป็นการขยายตัวแบบก้าวกระโดดจาก 8 ปีที่ผ่านมา ซึ่งมีอัตราการเติบโตเฉลี่ย 12% โดยปัจจุบันประเทศไทยมีโรงเรียนนานาชาติกว่า 175 โรงเรียน สัดส่วน 2 ใน 3 เป็นโรงเรียนนานาชาติในเขตกรุงเทพมหานคร


    สำหรับตัวเลขตลาดรวมของธุรกิจ 60,500 ล้านบาท/ปี แบ่งเป็นมูลค่าตลาดทางตรง 26,000 ล้านบาท/ปี มูลค่าตลาดทางอ้อม 28,000 ล้านบาท/ปี และครู 7,200 คน

    จากอัตราการเพิ่มขึ้นของโรงเรียนนานาชาติในประเทศไทย แสดงให้เห็นว่าแนวโน้มผู้ปกครองชาวไทยจะส่งลูกหลานเข้าเรียนในระบบการศึกษานานาชาติมากขึ้น เพื่อเป็นการปูทางการทำงานในอนาคต หลากหลายโรงเรียนนานาชาติจึงพยายามปรับเปลี่ยน และสร้างสรรค์การเรียนการสอนที่เหมาะสมกับเด็กในยุคดิจิทัล


    หลักสูตร UK ครองใจผู้ปกครองชาวไทย
    ปัจจุบันโรงเรียนเหล่านี้จะเปิดสอนตั้งแต่ระดับอนุบาลจนถึงชั้นปีที่ 12 สำหรับนักเรียนชาวไทยและนักเรียนต่างชาติ และหลังจากจบการศึกษา นักเรียนสามารถศึกษาต่อในมหาวิทยาลัยได้ทั่วโลก และมีนักเรียนจำนวนมากที่สามารถเข้าศึกษาต่อในมหาวิทยาลัยชั้นนำได้

    โดยแบ่งเป็น 4 หลักสูตรหลัก ดังนี้ หลักสูตรอเมริกัน (US) หลักสูตรสหราชอาณาจักร (UK) หลักสูตร International Baccalau-  reate (IB) และ หลักสูตรนานาชาติอื่นๆ เช่น ฝรั่งเศส เยอรมัน ญี่ปุ่น แคนาดา เป็นต้น

    จากข้อมูล ISC Research Ltd ณ เดือนธันวาคม 2561 สำรวจหลักสูตรต่างชาติที่ใช้กันมากที่สุด 3 อันดับแรก ได้แก่ หลักสูตรการศึกษาหลักของอังกฤษ (UK) 88 แห่ง สมัครเข้าเรียน 35,220 คน หลักสูตรการศึกษาของอเมริกา (US) 99 แห่ง สมัครเข้าเรียน 22,488 คน และ หลักสูตรอื่นที่ใช้ภาษาอังกฤษเป็นสื่อกลางในการเรียนการสอน (OEM) 38 แห่ง สมัครเข้าเรียน 12,968 คน


    ทำไมเลือกเรียนนานาชาติ?
    สำหรับเหตุผลที่โรงเรียนนานา ชาติยังเป็นที่ต้องการของตลาดนั้น อุษา สมบูรณ์ นายกสมาคมโรงเรียนนานาชาติ ให้ข้อมูลว่า เพราะขณะนี้มีอัตราค่าเทอมหลายระดับ โดยเฉพาะตลาดล่างที่เริ่มจะขยายตัวอย่างเห็นได้ชัด อย่างไรก็ตาม โรงเรียนที่มีค่าเทอมค่อนข้างแพง แต่มีคุณภาพก็ยังเป็นที่ต้องการในตลาดสูง

    ทั้งนี้ ตั้งแต่ช่วงปลายปี 2561 ผ่านมาจนถึงต้นปี 2562 มีโรงเรียนนานาชาติเกิดใหม่ 2-3 แห่ง ยกตัวอย่างโรงเรียนนานาชาติรักบี้ และโรงเรียนเวลลิงตัน ที่เป็นหลักสูตรไฮคลาสจากประเทศอังกฤษ มีการผ่อนปรนบางเงื่อนไขที่ใช้พิจารณาการรับเข้าเรียนให้ง่ายขึ้นเมื่อเทียบกับในอดีตที่ผ่านมา


    ส่วนปัจจัยที่ทำให้โรงเรียนนานาชาติ เป็นที่ต้องการของตลาด พบว่ามี 7 ประเด็นสำคัญ คือ 1. คุณภาพหลักสูตร ต้องได้รับมาตรฐานทั้งไทยและต่างชาติ 2. มีความร่วมมือกับโรงเรียนในต่างประเทศที่ได้รับความนิยม 3. ทำเลที่ตั้งของโรงเรียน ต้องสะดวกต่อการเดินทาง 4. ครูผู้สอน ต้องเป็นครูที่มีจิตวิญญาณความเป็นครู เป็นผู้ถ่ายทอดและพร้อมช่วยเหลือนักเรียนในทุกเรื่อง 5. เทคโนโลยีที่นำมาใช้ในการเรียนการสอน 6. สภาพแวดล้อม อุปกรณ์การเรียนการสอน และ 7. จุดเด่นของการจัดการเรียนการสอนที่ต้องมีจุดเด่นเฉพาะ

    ปัจจัยเหล่านี้ ล้วนเป็นสิ่งที่ทำให้โรงเรียนนานาชาติ เป็นทางเลือกที่ดีสำหรับผู้ปกครอง อีกทั้งการเรียนโรงเรียนนานาชาติในประเทศไทย ยังคงปลูกฝังในเรื่องของความเป็นไทย วัฒนธรรมไทย และแต่ละโรงเรียนก็จะมีสัดส่วนของนักเรียนไทยและต่างชาติ ทำให้นักเรียนได้เรียนรู้ความเป็นไทย และความหลากหลายวัฒนธรรม รวมถึงความร่วมมือกับโรงเรียนยอดนิยมในต่างประเทศ ทำให้เมื่อจบการศึกษาเด็กได้มาตรฐานเท่ากับเด็กที่เรียนในต่างประเทศ  


    อุษา สมบูรณ์ – นายกสมาคมโรงเรียนนานาชาติ
    “ปัจจุบันมีการขยายตัวของโรงเรียนนานาชาติทั่วประเทศเป็นจำนวนมาก ส่งผลให้แม้แต่โรงเรียนไทยยังต้องการเปิดสอนภาษาอังกฤษ จากปรากฏการณ์ดังกล่าวมองว่าเป็นโอกาสของเด็กไทย ที่จะมีทางเลือกเพิ่มขึ้น และอาจจะส่งผลให้ค่าเทอมถูกปรับลดลงมา เพราะการแข่งขัน แต่ขณะเดียวกัน อาจส่งผลด้านต้นทุนคือเงินเดือนครูต่างชาติ ที่ถือเป็นต้นทุนหลักปรับเพิ่มขึ้นได้ จากการที่ครูต่างชาติเป็นที่ต้องการของตลาดอย่างมาก”


    คาเมรอน ฟ็อกซ์ – หัวหน้าผู้บริหารโรงเรียนนานาชาติเวอร์โซ 
    “โรงเรียนนานาชาติเวอร์โซได้นำเอามาตรฐานการศึกษาแบบอเมริกันมาบูรณาการ การเรียนการสอนจะเป็นแบบสหวิทยาการ เน้นการทำโครงงานและการฝึกทักษะ เพื่อให้นักเรียนได้พาตนเองเข้าไปอยู่ในสภาพแวดล้อมที่กระตุ้นให้เกิดการเรียนรู้ร่วมกัน โดยมีทีมอาจารย์ผู้มีความเชี่ยวชาญคอยช่วยแนะนำและสนับสนุนอย่างใกล้ชิด เพื่อค้นหาสิ่งที่ตนเองสนใจและถนัด”