จากนโยบายของนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ที่ได้มอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องศึกษาเกี่ยวกับการกำหนดอัตราความเร็ว บนถนนขนาด 4 ช่องจราจรขึ้นไป ให้ใช้ความเร็วไม่เกิน 120 กม./ชม. ในช่องทางขวาสุด
นายสราวุธ ทรงศิวิไล อธิบดีกรมทางหลวง (ทล.) เปิดเผยว่า กรมทางหลวงได้ทำการสำรวจ และศึกษาความปลอดภัยด้านวิศวกรรมแล้วพบว่ามีจุดที่สามารถทำได้อยู่ประมาณ 252 กม. โดยจะนำร่องบนทางหลวงหมายเลข 32 หรือถนนสายเอเชีย ช่วงบางปะอิน-นครสวรรค์ ระยะรวมทาง 150 กม. แบ่งเป็น 2 ระยะ ระยะแรก ช่วงบางปะอิน-ชัยนาท ประมาณ 50 กม. จะนำร่องก่อนในปี 2563 ซึ่งจะมีการติดป้ายควบคุมความเร็วเฉพาะช่องจราจร โดยเลนซ้ายวิ่ง 80 กม./ชม. เลนกลาง 100 กม./ชม. และเลนขวาสุด 120 กม./ชม. ส่วนระยะทางที่เหลืออีก 100 กม. จะดำเนินการภายในปี 2564 และคาดว่าจะขยายผลต่อไปยังทางหลวงหมายเลข 1 หมายเลข 2 หมายเลข 3 หมายเลข 4 เพิ่มเติมด้วย
ทั้งนี้ กรมทางหลวงคาดว่าจะใช้งบประมาณ สำหรับปรับปรุงด้านกายภาพ ประมาณ 600 ล้านบาท เพื่อปรับปรุงป้ายจราจร ติดตั้งอุปกรณ์ ปรับจุดกลับรถเป็นทางลอด ซึ่งในช่วงที่ 2 (กม.50-กม.150 ) มีจุดกลับรถ 44 แห่ง โดยจะปิดจุดกลับรถ และปรับเป็นทางลอด 35 แห่ง ใช้งบปรับปรุงแห่งละ 10 ล้านบาท โดยที่รถใหญ่จะไม่ได้รับผลกระทบ เพราะยังสามารถใช้จุดกลับรถที่เป็นเกือกม้าที่มีอยู่ตลอดเส้นทางได้ ทั้งนี้ในอนาคตถนนสายเอเชียจะไม่มีจุดกลับรถที่พื้นราบ ซึ่งนอกจากจะรองรับความเร็วที่เพิ่มขึ้นได้ยังจะช่วยลดอุบัติเหตุได้ด้วย