วันนี้ เราจะมาพูดถึงเรื่องที่หลายคนน่าจะคุ้นเคยกันอยู่แล้ว นั่นคือ การจัดการรายรับรายจ่ายในชีวิตประจำวัน อยากทราบไหมว่า คุณใช้เงินไปเท่าไหร่ในเดือนนี้ ใช้เงินไปกับเรื่องอะไรบ้าง แล้วมีรายได้เข้ามาเพียงพอไหม?
มีหนึ่งเคล็ดลับที่จะช่วยให้คุณเป็นคนที่มีสถานะการเงินที่มั่นคง และหมดปัญหาเก็บเงินไม่อยู่ แล้วเคล็ดลับนั้นคืออะไร? มาดูกัน!
ตารางรายรับรายจ่ายที่กำลังจะพูดถึงในบทความนี้ เป็นเครื่องมือที่ง่าย และสะดวกต่อการวางแผนการเงินในชีวิตประจำวันมากๆ เพราะตารางนี้จะช่วยให้คุณเห็นภาพรวมของรายรับ และรายจ่ายในแต่ละเดือนอย่างชัดเจน
ซึ่งจะทำให้คุณสามารถปรับแผนการใช้เงิน และยังจัดทำบัญชีออมเงินได้อย่างมีประสิทธิภาพอีกด้วย ไปดูกันเลยดีกว่า ว่าเครื่องมือที่บอกว่าง่ายนี้ จะช่วยจัดการเรื่องเงินได้ดีขนาดไหน!
ตารางรายรับรายจ่าย
ตารางรายรับรายจ่าย เป็นเครื่องมือที่จะช่วยให้คุณสามารถจัดการ และติดตามการเงินได้อย่างง่ายดาย ซึ่งหลักๆ จะประกอบไปด้วย 2 ส่วนคือ รายการรายได้ที่คุณได้รับมา และรายการรายจ่ายที่คุณใช้จ่ายออกไปในแต่ละวัน
โดยคุณสามารถจดบันทึกข้อมูลเหล่านี้ไว้ในตาราง แล้วนำมาเก็บสถิติ หรือวิเคราะห์สถานะทางการเงินได้ ซึ่งจะช่วยให้คุณเข้าใจ และควบคุมการใช้เงินได้อย่างมีประสิทธิภาพในท้ายที่สุด
ตารางรายรับรายจ่าย จึงเป็นตัวช่วยชั้นเยี่ยม ที่จะทำให้คุณสามารถวางแผนการใช้เงินได้อย่างมีระบบ และสามารถเช็กได้ว่า ใช้เงินไปตามกำหนด หรือมากเกินกว่ารายรับหรือไม่
ที่สำคัญ การมีตารางบันทึกรายรับรายจ่าย ยังอาจทำให้คุณค้นพบ และแก้ปัญหาทางการเงินได้อย่างทันท่วงที เพราะถ้ามีรายการไหนที่จำนวนเงินน้อย หรือมากเกินกว่าปกติ คุณก็จะสามารถตรวจสอบ และหาที่มาของความผิดปกติได้นั่นเอง
รายละเอียดที่ต้องระบุในตารางรายรับรายจ่าย
ในตารางรายรับรายจ่ายนั้น คุณควรตั้งต้นจากการระบุรายการรายรับ หรือรายได้จากในทุกๆ ช่องทาง เช่น
– เงินเดือน
– รายได้จากธุรกิจ
– รายได้จากการลงทุนในสินทรัพย์ต่างๆ
และยังควรระบุรายการที่เป็นค่าใช้จ่ายอย่างละเอียด โดยต้องบันทึกจำนวนเงินที่ใช้ไปในแต่ละรายการนั้นด้วย เช่น
– ค่าเช่าบ้าน
– ค่าน้ำ
– ค่าไฟ
– ค่าอาหาร
– ค่าเดินทาง
นอกจากนี้ สิ่งสำคัญอีกอย่างที่ขาดไม่ได้เลย ในตารางรายรับรายจ่ายก็คือ วันที่ โดยคุณควรบันทึกวันที่ทำรายการ ทั้งรายรับและรายจ่ายนั้นๆ เพราะวันเวลาก็เป็นข้อมูลที่จำเป็นในการตรวจสอบย้อนหลัง และป้องกันการลืมอีกด้วย
โดยคุณยังสามารถใส่หมายเหตุที่เกี่ยวกับแต่ละรายการได้ด้วย เช่น คำอธิบายเพิ่มเติม สถานที่ที่ทำรายการ ผู้รับเงิน หรือผู้จ่ายเงิน ซึ่งจะทำให้ตารางรายรับรายจ่ายรายวันของคุณมีข้อมูลที่ครบถ้วน สามารถใช้งาน หรือเปิดดูข้อมูลได้อย่างสะดวกในทุกเมื่อที่ต้องการ
แจกฟรี! ตัวอย่างตารางบัญชีรายรับรายจ่าย
แน่นอนว่า ตารางรายรับรายจ่ายเป็นเครื่องมือที่สำคัญ สำหรับการจัดการและวางแผนการเงินของคุณ ซึ่งด้วยข้อมูลที่ใส่ไว้ในตารางนั้น จะทำให้คุณสามารถแยกรายการ และบันทึกรายละเอียดในทุกๆ รายการของรายรับ และรายจ่ายที่เกิดขึ้นในแต่ละวัน
ตัวอย่างตารางรายรับรายจ่ายเช่น ในวันที่ 1 ของเดือน คุณได้รับรายได้จากเงินเดือนเป็นจำนวนเงิน 20,000 บาท และใช้จ่ายค่าไฟฟ้า 400 บาท ค่าน้ำประปา 100 บาท และค่าอาหารอีก 300 บาท
ส่วนในวันที่ 5 คุณจ่ายเงินค่าเช่าบ้าน 4,000 บาท ค่าโทรศัพท์ 200 บาท และค่าอาหาร 200 บาท ขณะที่วันที่ 10 คุณมีรายได้ก้อนใหม่เข้ามา จากการขายหุ้นมูลค่า 4,000 บาท และจ่ายค่าบริการ Netflix 400 บาท
ข้อดี – ข้อเสียของการทำตารางรายรับรายจ่าย
การจัดทำตารางรายรับรายจ่าย เป็นวิธีที่ช่วยให้คุณสามารถติดตาม และจัดการเงินได้อย่างง่ายๆ แต่การทำตารางรายรับรายจ่ายนั้น ก็ยังมีข้อดีและข้อเสียที่ควรพิจารณา ก่อนที่คุณจะใช้เครื่องมือนี้ในการจัดการเงิน
ข้อดี
– ช่วยให้คุณเข้าใจ และจัดการการเงินได้อย่างชัดเจน
– เป็นเครื่องมือที่ช่วยบันทึกข้อมูล และสรุปผลการเงินในรูปแบบที่เข้าใจง่าย
– ช่วยในการวางแผนการเงินในอนาคต และการกำหนดเป้าหมายการเงิน
ข้อเสีย
– อาจลืมทำ หากไม่มีการติดตั้งระบบการแจ้งเตือน เมื่อมีรายการใหม่เกิดขึ้น
– อาจมีความยุ่งยากในการรวบรวมข้อมูล หรือคิดคำนวณ ในกรณีที่มีรายการเยอะ หรือซับซ้อน
อย่างไรก็ตาม ยังมีอีกหนึ่งตัวช่วยที่จะทำให้คุณหมดปัญหา และกำจัดจุดอ่อนเหล่านี้ไปได้ นั่นคือ การใช้แอป MAKE by KBank ซึ่งเป็นแอปที่มีฟีเจอร์หลากหลายที่สามารถใช้ในการจัดการเงินแบบครบวงจร
เปลี่ยนการทำตารางรายรับรายจ่ายเป็นเรื่องง่ายด้วย MAKE by KBank
ในวันที่เทคโนโลยีทวีบทบาทสำคัญในชีวิตของทุกคนมากขึ้นเรื่อยๆ ไม่ว่าคุณจะเป็นคน Gen ไหน ก็อาจจะต้องทำความเข้าใจ เพื่อใช้ความก้าวหน้าของเทคโนโลยีเหล่านี้ ให้เป็นประโยชน์กับตัวเองมากที่สุด ไม่เว้นแม้แต่เรื่องการทำตารางรายรับรายจ่าย
ที่ผ่านมานั้น สำหรับหลายคนอาจรู้สึกว่า การทำตารางรายรับรายจ่ายเป็นเรื่องที่ยุ่งยาก ต้องใช้ความจำ ความตั้งใจในการมานั่งเขียนในทุกๆ วัน จนทำให้บางคนล้มเลิกความพยายามไปในที่สุด
ดังนั้น การใช้แอปสุดปังอย่าง MAKE by KBank เข้ามาช่วยจัดการในเรื่องนี้ ก็จะทำให้คุณเสมือนมีสมุดจดตารางรายรับรายจ่ายเล่มใหญ่ ที่พกติดตัวอยู่บนโทรศัพท์มือถือตลอดเวลา
และยังสามารถหยิบมาจดได้ทันทีเมื่อจ่ายเงิน หรือรับเงินเข้ามา แถมยังเรียกดูข้อมูลได้แบบเรียลไทม์ ในรูปแบบที่เข้าใจง่าย ภายใต้ฟีเจอร์การใช้งานที่ตอบโจทย์ อย่างเช่น
– Cloud Pocket เป็นฟีเจอร์ที่ช่วยแบ่งสัดส่วนเงินในกระเป๋าของคุณ ได้ตามที่ต้องการ แบบไม่มีจำกัดว่าสามารถแบ่งได้เป็นกี่กระเป๋า โดยวิธีการใช้งานของฟีเจอร์นี้ก็แสนง่าย เพียงแค่คุณแยกเงินที่จะใช้จ่าย และเงินเก็บไว้ในกระเป๋าให้ชัดเจน เช่น
– กระเป๋ารายจ่ายที่ต้องจ่ายทุกเดือน เช่น ค่าอินเทอร์เน็ต ค่าผ่อนคอนโด
– กระเป๋าเงินเก็บเงินระยะสั้น เช่น เงินสำหรับทริปไปเที่ยว เงินสำหรับซื้อของขวัญวันเกิดของพ่อแม่
– กระเป๋าเงินสำหรับเก็บเงินระยะยาว เช่น เงินสำหรับการดาวน์รถ
จากตัวอย่างการแบ่งกระเป๋าแบบนี้ น่าจะพอเห็นภาพแล้วว่า การแยกเงินในแต่ละกระเป๋าไว้อย่างชัดเจน จะทำให้คุณไม่สับสน และสามารถจัดการรายรับรายจ่ายได้อย่างมีประสิทธิภาพ ไม่พลาดแม้แต่สักรายการ
ซึ่งไม่เพียงแค่ความสะดวกสบายเท่านั้น แต่ Cloud Pocket ยังช่วยลดความเสี่ยงในการใช้เงินเกินจำเป็นอีกด้วย
– Expense Summary เป็นอีกหนึ่งฟีเจอร์ที่เป็นที่นิยมมากๆ ในแอป MAKE by KBank เพราะตอบโจทย์การใช้งานของคนทุก Gen โดยเฉพาะสำหรับสายเปย์ ที่มีค่าใช้จ่ายกับเรื่องต่างๆ แบบไม่ซ้ำกันในแต่ละวันนั้น
ฟีเจอร์นี้ถือเป็นผู้ช่วยชั้นเยี่ยมที่จะคอยทำหน้าที่สรุป และแสดงรายละเอียดค่าใช้จ่ายของคุณแต่ละเรื่อง ในรูปแบบที่ชัดเจน โดยแบ่งเป็นหมวดหมู่ต่างๆ ดังนี้
– หมวดค่าอาหาร
– หมวดการช้อปปิ้ง
– หมวดการเดินทาง
– หมวดความบันเทิง
– หมวดการชำระบิล
– หมวดอื่นๆ
โดยข้อดีของฟีเจอร์ Expense Summary ที่แบ่งค่าใช้จ่ายของคุณออกมาเป็นหมวดๆ แบบนี้ ก็คือ คุณจะสามารถเห็นได้อย่างชัดเจนเลยว่า เรื่องอะไรบ้างที่คุณใช้จ่ายมากที่สุดในแต่ละเดือน และใช้มากเกินกว่าที่ตั้งไว้หรือไม่ เพื่อจะได้หาวิธีปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้จ่าย ก่อนที่เงินออม หรือเงินบัญชีจะติดลบนั่นเอง!
สรุป
จะเห็นได้ว่า ตารางรายรับรายจ่ายเป็นเครื่องมือสำคัญในการจัดการเงินให้มีความเป็นระเบียบ ไม่ว่าจะเป็นรายรับ เช่น เงินเดือน รายได้จากธุรกิจ รวมทั้งรายจ่าย เช่น ค่าใช้จ่ายประจำเดือน ค่าใช้จ่ายในโอกาสพิเศษ ไปจนถึงการลงทุน
ซึ่งการทำตารางรายรับรายจ่าย จะช่วยให้คุณสามารถติดตามการเงินได้ง่ายขึ้น ด้วยการบันทึกรายรับและรายจ่ายที่เกิดขึ้นในแต่ละวัน โดยการมีตารางรายรับรายจ่ายที่ชัดเจน ก็จะทำให้คุณได้เห็นว่า ภาพรวมการใช้เงินเป็นอย่างไร
และที่ขาดไม่ได้คือ การตรวจสอบตารางรายรับรายจ่ายเป็นประจำ จะช่วยให้คุณสามารถปรับเปลี่ยนแผนการเงินได้ตามสถานการณ์ และความต้องการ ทั้งการลดค่าใช้จ่ายที่อาจจะไม่จำเป็น หรือการเพิ่มรายรับด้วยการสร้างแหล่งรายได้เสริม
นอกจากนี้ ตารางรายรับรายจ่าย ยังทำให้คุณควบคุมการใช้เงินได้อย่างเหมาะสม เพื่อไปถึงเป้าหมายการเงินที่ตั้งใจไว้ในอนาคต