นิด้าโพล เผยผลสำรวจประชาชนในเรื่อง “ประชาชนยังกลัวโควิด – 19 อยู่หรือไม่” โดยทำการสำรวจระหว่างวันที่ 3 – 7 กันยายน 63 จากผู้ที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไป ระดับการศึกษา และอาชีพทั่วประเทศ กระจายในทุกภูมิภาค รวมทั้งสิ้น 1,315 หน่วยตัวอย่าง เกี่ยวกับสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 การสำรวจอาศัยการสุ่มตัวอย่างโดยใช้ความน่าจะเป็น จากบัญชีรายชื่อฐานข้อมูลตัวอย่างหลัก (Master Sample) สุ่มตัวอย่างด้วยวิธีแบบง่าย (Simple Random Sampling) เก็บข้อมูลด้วยวิธีการสัมภาษณ์ทางโทรศัพท์โดยกำหนดค่าความเชื่อมั่นที่ร้อยละ 97.0
ประชาชนส่วนใหญ่ยังกังวลต่อโควิด-19 พบกว่าร้อยละ 74 ส่วนใส่หน้ากากเพราะกลัวตาย
จากการสำรวจจากประชาชนเมื่อถามถึงความกังวลต่อการติดเชื้อโควิด – 19 พบว่า
– ร้อยละ 23.04 ระบุว่า กังวลมาก
– ร้อยละ 36.81 ระบุว่า ค่อนข้างกังวล
– ร้อยละ 16.81 ระบุว่า ไม่ค่อยกังวล
– ร้อยละ 23.34 ระบุว่า ไม่กังวลเลย
สำหรับเหตุผลสำคัญในการป้องกันเชื้อโรคโดยการสวมใส่หน้ากากอนามัย/หน้ากากผ้า พบว่า
– ร้อยละ 74.98 ระบุว่า กลัวตาย
– ร้อยละ 9.28 ระบุว่า กลัวสังคมรังเกียจ
– ร้อยละ 7.45 ระบุว่า เป็นคำสั่งรัฐบาล
– ร้อยละ 7.22 ระบุว่า กลัวทำให้คนอื่นตาย
– ร้อยละ 1.07 ระบุว่า ไม่ตอบ/ไม่ทราบ/ไม่สนใจ
ประชาชนเชื่อสามารถรับมือหากเกิดระลอกใหม่ได้ ร้อยละ 68.14 คิดว่าระบบสาธารณสุขเพียงพอ
สำหรับความคิดเห็นในการรับมือของประเทศไทย หากเกิดการแพร่ระบาดโควิด-19 ระลอก 2 พบว่า
– ร้อยละ 79.24 ระบุว่า สามารถรับมือได้
– ร้อยละ 10.95 ระบุว่า ไม่สามารถรับมือได้
– ร้อยละ 9.81 ระบุว่า ไม่แน่ใจ
ในส่วนสำหรับความคิดเห็นต่อความเพียงพอของระบบแพทย์และสาธารณสุข หากเกิดการแพร่ระบาดในระลอก 2 พบว่า
– ร้อยละ 68.14 ระบุว่า มีเพียงพอ
– ร้อยละ 22.13 ระบุว่า ไม่เพียงพอ
– ร้อยละ 9.73 ระบุว่า ไม่แน่ใจ
ทั้งนี้ การแพร่ระบาดระลอกใหม่อาจจะเกิดขึ้นได้เสมอ ซึ่งเมื่อไม่นานมานี้ กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข ได้ออกแถลงกรณีพบผู้ติดเชื้อภายในประเทศเพิ่ม 1 คน ซึ่งเป็นที่น่าสงสัยว่าการพบผู้ติดเชื้อครั้งนี้ขึ้นเกิดขึ้นได้อย่างไร เนื่องจากเป็นการพบผู้ติดเชื้อในประเทศอีกครั้งหลังจะที่ไม่พบมาอย่างต่อเนื่องมากกว่า 100 วัน อย่างไรก็ตามความเสี่ยงในการเกิดการแพร่ระบาดระลอกใหม่นี้ ขึ้นอยู่กับการปฏิบัติตนอย่างเคร่งครัด และให้ความร่วมมืออย่างเต็มที่ เพราะหากเกิดระบาดระลอก 2 สถานการณ์อาจจะรุนแรงกว่ารอบแรก