Sunday, June 11, 2023
More
    spot_imgspot_imgspot_imgspot_img

    พลังจิตเปรียบดั่งแก้วสารพัดนึก

    เหลียวมองไปทางไหนห้วงเวลานี้ ดูจะเห็นแต่ป้ายหาเสียงของนักการเมือง พรรคการเมืองละลานตา บรรดานักการเมืองพรรคการเมืองต่างๆ พากันรัวกลองหาเสียงในโค้งสุดท้ายกันอย่างเข้มข้น บางพรรคมีการขุดเอาข้อมูลอีกฝั่งออกมาห้ำหั่นโจมตีกันอย่างเมามันจนยากจะแยกแยะข้อมูลใดจริง ใดเท็จ

    ทำเอาหลายต่อหลายคนหวั่นไหวเคลิ้มไปตามข้อมูลที่ถูกขุดออกมา และคงต้องใช้สติใช้สมาธิไตร่ตรองกันให้ถ่องแท้ ยิ่งในห้วงเวลานี้ที่หันไปทางไหนดู เศรษฐกิจจะเต็มไปด้วยความฝืดเคืองไปทุกหย่อมหญ้าด้วยแล้ว จิตใจของคนเรายิ่งฟุ้งซ่านไปตามความอยากทั้งหลายจนยากจะหาความสงบ


    แต่ไม่ว่าจะอย่างไร 24 มีนาคมศกนี้  เราทุกคนล้วนมีหน้าที่ที่จะต้องไปใช้สิทธิ์ของเราเลือกคนดีเข้าสภากัน บ้านเมืองเราจะได้ไปต่อกันเสียทีเรื่องที่อยากพูดถึงวันนี้ เรื่องของ “งานคือเงิน เงินคืองาน บันดาลสุข”ที่เราได้ยินกันจนชินหูมาตลอดนั้น มีความเกี่ยวพันกับจิตและสมาธิอย่างไร

    มีข้อคิดหนึ่งจากพระเดชพระคุณเจ้า พระธรรมมงคลญาน (หลวงพ่อวิริยังค์ สิรินธฺโร) เจ้าอาวาสวัดธรรมมงคล ประธานสถาบันพลังจิตตานุภาพ ที่ได้แสดงธรรม “ธรรมะรุ่งอรุณ” วันพฤหัสที่ 24 ธันวาคม 2558 ถึงคำขวัญที่เราได้ยินได้ฟังกันมานาน “งานคือเงิน เงินคืองาน บันดาลสุข” เอาไว้อย่างน่าสนใจว่า

    ที่จริงพลังจิตนั้นหลวงพ่อเปรียบเหมือนดั่งกับเงินมันเป็นแก้วสารพัดนึก เพราะจิตนั้น หากเราใช้ไม่ถูกทาง มันพาเอาเราไปลงนรก พาเราไปเกิดเป็นเปรต  เพราะว่าก่อนจะตายก็ห่วง ไอ้จิตเป็นห่วงนี่มันอันตราย “… โอ้ ใครจะดูแล… โอ้ กูจะไม่ได้ใช้… โอ้ เสียดายแย่ …โอ้ จะตายแล้ว….” แน่นอนไปเกิดเป็นเปรตแน่นอนแบบนี้ เพราะมันบันดาลทุกข์แล้ว

    ที่ว่าเงินเปรียบเหมือนกับพลังจิต เพราะพลังจิตนี่จะต้องผลิตด้วยตนเอง คนอื่นจะมาให้เราไม่ได้ เหมือนกับการรับประทานอาหาร เราต้องรับประทานเอง จะให้คนอื่นรับประทานแทนเรานั้นทำไม่ได้ ถึงเราจะรักคนๆนั้นเพียงใด ก็ต้องให้เขากินเอง เรารักลูก เราอยากจะกินแทนลูก กินแทนไม่ได้ ลูกมันอยากจะโตก็ต้องกินเอง

    พลังจิตก็เช่นเดียวกัน เราจะให้คนอื่นผลิตให้เรานั้นไม่ได้ เราต้องผลิตเอาเอง ทีนี้เงินคืองาน ก็หมายความว่า เราอยากได้พลังจิตเราก็ต้องทำงาน  ทำงานก็คือ เราเดินจงกลม นั่งสมาธิ งานที่จะได้พลังจิตนี้ง่ายนิดเดียว นึกพุทโธ 5 นาทีก็ได้แล้ว ไม่ต้องทำอะไร เขาเรียกว่า “วิทิสาสมาธิ” ถ้าจะทำให้มากขึ้นเขาเรียกว่า “ชินนสาสมาธิ” 5 วัน 7 วัน  ถ้าจะทำให้เราเป็นครูบาอาจารย์ได้ก็ใช้เวลาสัก 6 เดือน ก็ถือว่าไม่นานนักก็สามารถทำได้

    ทีนี้พลังจิตที่เปรียบด้วยเงินนี่ พลังจิตนี้มันดีกว่าตรงที่ไม่สลายตัว ถ้าเราทำแล้วนี่มันจะนอนนิ่งอยู่กับตัวเราตลอดไปให้เราได้ใช้เหมือนกับเราเรียนวิชา เราเรียน ก.ไก่ ข.ไข่ วิชาความรู้ ตัวหนังสืออังษระอะไรเนี่ยะเรียนมา 12 ปี ได้ชั้นมัธยม วิชาเหล่านี้จะติดตัวเราไปจนตาย  มันไม่หนีไปไหน  มันอยู่กับตัวเราแล้ว มันอยู่ในใจเราแล้ว เรียกว่า วิชาการ

    เช่นเดียวกับพลังจิต เมื่อเราผลิตทำมันขึ้นมาแล้วมันจะอยู่กับตัวเราไป แต่พลังจิตนี้ เมื่อแข็งแกร่งแล้วมันจะกลายเป็นตัวเตือน เช่นเดียวกับการศึกษาที่เราศึกษากันอยู่นี้จะประถาม มัธยม ก็เพื่อให้เกิดตัวเตือน อ่านหนังสือเราอ่านได้ ภาษาอังกฤษอ่านได้ ภาษาฝรั่งเศสอ่านได้ ภาษาไทย ภาษาลาว ภาษาอะไรก็อ่านได้ เพราะว่า มันติดตัวเราตลอดไป

    งานที่เราทำให้เป็นพลังจิตก็เช่นกัน มันเป็นแก้วสารพัดนึกแบบไหน? แบบที่ว่าเมื่อเวลาเราจะสิ้นลมนั้นมันเป็นเพียงเสี้ยววินาที ยังไม่ทันพูด อ้าปากหายใจไม่ทันก็หมดแล้ว แต่ว่าถึงแม้ความตายมันจะเร็วงแค่ไหนแต่จิตเรามันเร็วกว่า จิตของเรามันเร็วกว่า

    ต้องเข้าใจว่าเสียง เสียงอะไรนี่ยังเร็วไม่เท่าจิต เรารู้ว่าเสียงยังเร็วไม่เท่าแสง แสงจะเร็วกว่าสิ่งอื่นใดทั้งหมดก็จริง แต่ว่าจิตของคนเรานั้นเร็วกว่านั้นอีก  เพราะฉะนั้นเมื่อมันมีอะไรเกิดขึ้น พุทโธที่เรานึกมันจะออกมาเป็นพรูไปเลย

    ทีนี้พลังจิตเปรียบด้วยเงินนี่ พลังจิตก็จะไปซื้อ ถ้าเปรียบด้วยเงินก็คือซื้ออันดับแรกคือ ซื้อจิตเป็นสมาธิ  ซื้ออันดับต่อไปคือ ซื้อความจำต่างๆ เราสามารถที่จะซื้อได้  ดังนั้นพลังจิตที่ว่าจะว่าง่ายก็ง่าย จะว่ายากก็ยาก  ถ้าพูดว่าธรรมะทั้งหลายเป็นพลังจิตมันก็ง่ายนิดเดียว คือเราไม่ต้องไปทำอะไร ถึงวันเวลาเราก็ไปสมาธิ ได้เวลาเราก็ทำสมาธิ 5 นาที 10 นาที ต่อวันก็ยังดี  แล้วสมาธินี้จะฝังอยู่  หลวงพ่อจึงว่าถ้าเราไม่ทำสมาธิ เราก็ไม่ได้พลังจิต เราไม่ทำงานก็ไม่ได้เงิน

    ทีนี้หากว่าเราสร้างพลังจิตเก็บเอาไว้ให้เพียงพอแล้วนี่ช่วยได้ ถ้าเข้ามาปั๊บ มันก็เหมือนกับความรู้ของเราที่ไปร่ำเรียนมา เราไปเรียน ก.ไก่ ข.ไข่ ข.ขวด ค.ควายมาแล้วมันไม่ได้ไหน มันยังอยู่กับเรา  พลังจิตที่เราสร้างขึ้นจากการนั่งสมาธิก็เช่นกัน  เราทำ นึกพุทโธไปแล้ว ถึงเวลาคับขัน มาช่วยเราแล้ว และไม่ใช่ช่วยแค่ชาติเดียว แต่หลายชาติด้วย