Wednesday, May 24, 2023
More

    ความประมาทนำพาสู่อบายมุข

    เรื่องของดารา-นักร้องสาว  ”ปุ๊กกี้-ปริศนา” ที่หลงผิด ถูกเจ้าหน้าที่ ปปส. และตำรวจกองบัญชาการปราบปรามยาเสพติดจับกุมพร้อมสามี ฐานลักลอบค้ายาเค ยาไอซ์ และยาเสพติดให้โทษน้ำหนักกว่า 5 กิโลกรัม มูลค่านับร้อยล้านบาทนั้นยังคงเป็นเรื่องที่สังคมให้ความสนใจว่า เกิดอะไรขึ้นกับดารานักร้องสาวคนนี้

    เหตุใด “ไอดอลสาว” ที่รู้ทั้งรู้ว่าเส้นทางเดินที่เข้าไปพัวพันและเกี่ยวข้องกับขบวนการค้ายาเสพติดให้โทษนั้น สักวันจะต้องจบลงด้วยความวิบัติแห่งชีวิต แต่ก็ไม่อาจจะตัดใจหักห้ามกิเลสตัณหาของตนเองลงได้ ท้ายที่สุดต้องพาตัวเองให้มืดบอด สุดท้าย เจ้าตัวก็พ่ายต่อกงกรรมที่ก่อขึ้น ต้องเข้าไปชดใช้กรรมในเรือนจำหมดอนาคตไปตลอดชีวิต


    พระธรรมมงคลญาณ (หลวงพ่อวิริยังค์สิรินฺธโร) ผู้ก่อตั้งสถาบันพลังจิตตานุภาพ ได้แสดงธรรมเทศนาในเรื่องของ “ความประมาทนำพาสู่อบายมุข” เมื่อวันที่ 13 ตุลาคม 2551 ว่า พวกเราอยู่ใน “สังสารวัฏ” ยังต้องเวียนว่าย ตาย เกิดนั้น ก็ขอให้ไปเกิดในที่ดี ขอให้มีชีวิตมีความสุขไม่ว่าจะเกิดในชาติใดฉันใดก็ขอให้ได้รับความสุขความสบาย

    แต่ทีนี้พวกเรานั้นมีความประมาท เมื่อเวลาที่เกิด แก่ เจ็บ ตายนี้ มันมีความประมาท ไปทำผิดศีล ไปทำผิดธรรม ก็เลยทำให้ต้องไปเสวยวิบากกรรมต่างๆ เช่นเราไปฆ่าสัตว์ ไปขโมยของคนอื่น ไปประพฤติข่มขืนอนาจาร ไปโกหกหลอกลวง ไปกินเหล้าเมาสุรา ยาเสพติดอะไรต่างๆ เหล่านี้ ล้วนแล้วแต่เรียกว่าเป็นบาป

    “เราประมาทกันก็เพราะว่าเราก็คิดว่าเราไม่แก่ ไม่ตาย อย่างที่เขากินเหล้าทุกวัน ไปถามทำไมถึงกินเหล้าทุกวัน ไม่กินมันก็ไม่สบาย พอกินแล้วมันก็สบาย แต่หารู้ไม่ มันได้เผาผลาญร่างกายของเราให้ชำรุดทรุดโทรมลงไปอย่างรวดเร็ว แทนที่จะมีชีวิตอยู่ได้นาน ก็อยู่ไปไม่นาน เพราะการกินเหล้าอย่างนี้เป็นต้น

    การกินเหล้าอย่านึกว่ากินแล้วก็แล้วกัน เพราะเมื่อกินเหล้าเข้าไปแล้วมันผิดศีลข้อ 5 สุราเมระยะมัชชะ เมื่อผิดแล้วก็มีทางเดียวต้องไปอบาย จะต้องไปเกิดเป็นสัตว์เดรัจฉาน เป็นสัตว์นรก หรือไปเกิดเป็นเปรต เป็นอสุรกาย อันนี้คือหนทางเมื่อทำบาปแล้วมันจะมาที่นี่”

    ส่วนการทำบาปนั้น บางคนก็คิดว่าไม่เป็นไร ชาติหน้า ชาติต่อไปไม่มี อันนี้เขาเรียกว่าเป็น “มิจฉาทิฏฐิ” เพราะคิดแต่ว่าไม่มีชาติหน้า ไม่มีชาตินี้ ไม่มีชาติก่อน ต่างจาก “สัมมาทิฏฐิ” อันนั้นเชื่อว่าชาติก่อนเรามีอะไรบ้าง ได้ทำอะไรไว้บ้าง ชาตินี้ทำอะไร ชาติต่อไปจะเป็นอะไร 

    ทีนี้การที่เป็นชาติในแต่ละชาตินั้นไม่ใช่อื่นไกลหรอก ก็คือจิตใจของเรานี่เอง เพราะว่าร่างกายนั้นตายไปก็จริงอยู่ แต่ว่าใจนี้ไม่ได้ตายตามร่างกายไปด้วย เมื่อเป็นเช่นนั้น ใจนี้จึงจะเป็นผู้ที่ไปรับ อย่างคนที่จะมาเกิด ถ้าหากว่าใจไม่เข้ามาจุติคือหมายความว่า ไม่เข้ามาเกิดก็เกิดไม่ได้ เพราะฉะนั้นใจจึงมีความสำคัญอย่างยิ่งในการที่เรามีความรู้สึกอยู่ในปัจจุบันนี้ เพราะฉะนั้นความสำคัญทั้งมวลจึงอยู่ที่ใจ ร่างกายของเรานี้เป็นแค่บ่าว “จิตเป็นนาย กายเป็นบ่าว” นั่นเอง

    ก็คงเพราะเหตุนี้พระอาจารย์ถึงได้ย้ำกับพวกเราอยู่เสมอ  หนทางที่ดีที่สุดสำหรับพุทธ  ศาสนิกชนก็คือเราต้องมาทำใจ มาปฏิบัติทางใจ ทำใจของเราให้เกิดความสงบให้เป็นกุศล ให้เบิกบาน ให้ใจมีพลัง ซึ่งก็คือการทำสมาธินั่นเอง