สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าคุณทหารลาดกระบัง (สจล.) ได้เปิดเผย 10 กิจกรรมที่เกิดขึ้นจากบุคลากรในมหาวิทยาลัย ท่ามกลางบรรยากาศของการเรียนออนไลน์ ที่สร้างเทรนด์การเรียนรู้แบบใหม่ ๆ ซึ่งน่าสนใจ และเชื่อว่าคนในวงการอื่นก็สามารถนำไปปรับใช้ได้อย่างเกิดประโยชน์อีกด้วย
การปรับตัวสู่การเรียนออนไลน์ในทรรศนะของ ศ.ดร.สุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์
ศ.ดร.สุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ อธิการบดีสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง (สจล.) กล่าวว่า “สถานการณ์การเรียนออนไลน์แบบนี้ ไม่เพียงแต่นักศึกษาที่ต้องปรับตัว แต่อาจารย์ และบุคลากรมหาวิทยาลัย ต่างก็ต้องพยายามปรับตัว เรียนรู้การใช้เทคโนโลยีให้มีประสิทธิภาพสูงสุด เพื่อเป็นประโยชน์ต่อนักศึกษา นอกจากนี้ สจล. ยังถือโอกาสช่วงที่นักศึกษาเรียนออนไลน์จากที่บ้าน ปรับปรุงทัศนียภาพมหาวิทยาลัย รวมถึงปรับปรุงระบบการเรียนการสอนออนไลน์ให้พร้อมใช้งานอย่างมีประสิทธิภาพในอนาคต ภายใต้โครงการ 60 ปี พระจอมเกล้าลาดกระบัง ไร้ขีดจำกัด (KMITL 60th Year: Go Beyond the Limit) ทั้งนี้ สจล. มั่นใจว่าการปรับตัวครั้งนี้ จะเป็นการพัฒนาที่ยั่งยืน และเมื่อวิกฤตครั้งนี้ผ่านพ้นไป เราจะมีภูมิคุ้มกันติดตัวที่ดีกว่าเดิม”
10 กิจกรรมในช่วง Study From Home ของบุคลากรในมหาวิทยาลัย
นอกจากการเรียนออนไลน์แล้ว กิจกรรมนอกห้องเรียนก็เป็นหนึ่งส่วนในการเรียนรู้ที่ต้องปรับตัวให้เข้ากับสถานการณ์ช่วงนี้เช่นกัน อย่าง 10 กิจกรรมที่เกิดขึ้นกับทาง สจล. ดังนี้
1.เรียนในห้องออนไลน์
การเรียนออนไลน์เป็นเรื่องใหม่ที่ไม่คุ้นชินสำหรับใครหลาย ๆ คน แต่ถือเป็นการเปลี่ยนบรรยากาศไปอีกรูปแบบหนึ่ง หลายคนพบช่องทางการติดต่อกันผ่านแอปฯ สื่อสารต่าง ๆ นอกจากนี้ การปรับตัวโดยการเรียนรู้การใช้เทคโนโลยีเพื่อการเรียนหรือทำงานอย่างมีประสิทธิภาพยังนับว่าเป็นการเตรียมความพร้อมรับมือความท้าทายใหม่ ๆ ที่อาจเกิดขึ้นในอนาคตด้วย
2.พัฒนาศักยภาพตัวเองผ่านคอร์สเรียนออนไลน์
อีกหนึ่งกิจกรรมที่มีประโยชน์ในช่วงที่ทุกคนกักตัวอยู่ที่บ้านก็คือการพัฒนาศักยภาพของตัวเองผ่านการเรียนในรูปแบบคอร์สออนไลน์ ซึ่งในปัจจุบันมีเว็บไซต์ที่เปิดโอกาสให้ทุกคนได้พัฒนาศักยภาพมากมาย
3.เปิดโลกท่องเที่ยวแบบออนไลน์
ใครว่าช่วงกักตัวแบบนี้จะออกไปเที่ยวไหนไม่ได้ขอแนะนำให้รู้จักกับเว็บไซต์ที่สามารถพาทุกคนออกไปเปิดประสบการณ์การท่องเที่ยวรอบโลก โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายอย่างartsandculture.withgoogle.comที่รวบรวมสถานที่ท่องเที่ยวสุดอันซีนในสหรัฐอเมริกาอย่าง ภูเขาไฟฮาวาย อุทยานแห่งชาติไบรซ์แคนยอน เกาะทอร์ทูก้า เป็นต้น
4.เอาเวลาว่างจากการเดินทางมาอ่านหนังสือทำงานอดิเรก
ช่วงเวลาการเรียนออนไลน์แบบนี้ถือเป็นโอกาสอันดีอย่างยิ่งที่จะได้เอาเวลาว่างจากที่เคยใช้ไปกับการเดินทาง มาอ่านหนังสือที่เคยอ่านค้างไว้ หรือทำงานอดิเรกที่สนใจ
5.แบ่งเวลาทำเพื่อสังคมในรูปแบบออนไลน์ก็ได้
นอกจากการพัฒนาตัวเองในด้านต่างๆ แล้ว การทำเพื่อสังคมก็สามารถทำได้ในรูปแบบออนไลน์ไม่ว่าจะเป็นการอ่านหนังสือเพื่อคนตาบอด ผ่านแอปพลิเคชัน Read for the Blind อาสาทำสื่อการเรียนให้กับนักศึกษาตาบอดในมหาวิทยาลัย ผ่านแอปพลิเคชัน Guidelight หรือ อาสาเป็นพี่เลี้ยง ทำหน้าที่รับฟัง ชวนคุย ชวนคิดกับน้องๆ ผ่านแอปพลิเคชัน มูลนิธิยุวพัฒน์ เป็นต้น
6.พัฒนาฝีมือทำอาหารในช่วงกักตัว
ช่วงเวลากักตัวแบบนี้หลายคนใช้เวลาไปกับการพัฒนาฝีมือทำอาหารอีกทั้งยังปลอดภัยกว่าการออกไปซื้ออาหารหรือสั่งอาหารมาทานด้วย นอกจากนี้ยังสามารถเอามาอวดกันในวีดีโอคอลกับเพื่อนเป็นการทานอาหารร่วมกันแบบSocial distancing ได้อีกด้วย
7.ลุกขยับออกกำลังกาย
อีกหนึ่งกิจกรรมที่ควรต้องทำเป็นอย่างยิ่งในช่วงเวลากักตัวอยู่บ้านแบบนี้คือการออกกำลังกาย เสริมสร้างภูมิต้านทานให้แก่ตัวเอง อีกทั้งยังเป็นการควบคุมน้ำหนักไม่ให้เพิ่มขึ้นมากเกินไปในช่วงนี้ด้วย ถึงทุกอย่างจะดู Go Online ไปหมด แต่ก็อย่าลืมพักจากหน้าจอจัดสรรเวลาไปทำกิจกรรมอื่นๆ หรืออาจใช้วิธีกำหนดเวลางดเล่นโทรศัพท์มือถือก่อนนอนเป็นเวลา1-2ชั่วโมง เพื่อให้ร่างกายได้ปรับการทำงานของดวงตาเข้าสู่การพักผ่อน
8.เตรียมการสอนรูปแบบออนไลน์ให้ดึงดูดใจนักศึกษา
ใครว่านักศึกษาต้องปรับตัวในการเรียนรูปแบบออนไลน์อยู่ฝ่ายเดียวอาจารย์เองก็ต้องเตรียมพร้อมการสอนผ่านระบบออนไลน์ให้มีประสิทธิภาพนับเป็นความท้าทายของอาจารย์เช่นเดียวกันที่ต้องสอนนักศึกษาให้ได้รับความรู้ และหาวิธีการประเมินผู้เรียนให้ได้เช่นเดียวกับการเรียนในรูปแบบปกติ
9.เปลี่ยนมหาวิทยาลัยเป็นศูนย์พิเศษเพื่อผู้ป่วย
ในยามที่บรรยากาศมหาวิทยาลัยเงียบเหงาจากการที่นักศึกษาเดินทางกลับบ้านเป็นจำนวนมาก เนื่องจากการปรับเปลี่ยนรูปแบบการเรียนการสอนเป็นออนไลน์ ถือเป็นโอกาสที่มหาวิทยาลัยจะได้ทำเพื่อสังคมได้เช่นเดียวกับสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบังที่แปลงหอพักนักศึกษาที่ว่างอยู่ในขณะนี้ เป็นโรงพยาบาลสนามรองรับผู้ป่วยโควิด-19ในระยะเฝ้าสังเกตอาการและระยะพักฟื้นที่ถูกส่งตัวมาจากโรงพยาบาลต่างๆนับเป็นการเปลี่ยนสิ่งที่มีอยู่ให้เป็นประโยชน์และเป็นการช่วยสังคมในภาวะวิกฤตอีกด้วย
10.ผลิตนวัตกรรมการแพทย์สุดเจ๋งช่วยสังคม
นอกจากภารกิจเปลี่ยนหอพักเป็นโรงพยาบาลสนามเฉพาะกิจของสจล.ยังมีการตั้งศูนย์นวัตกรรมสู้โควิด-19 (KMITL FIGHT COVID-19) เพื่อพัฒนานวัตกรรมออกมาช่วยบุคลากรทางการแพทย์อีกด้วย